5 เหตุผลที่ควรซื้อโทรศัพท์ไอโฟน

หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากได้โทรศัพท์ใหม่ คงกำลังลังเลใจกันอยู่ใช่ไหมว่าจะเลือกโทรศัพท์ยี่ห้อใดดี เนื่องจากแต่ละยี่ห้อก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป บางยี่ห้อราคาถูก ทนทาน แต่ไม่มีฟังก์ชั่นมากมายนัก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกล้องถ่ายรูปที่ได้กลายมาเป็นปัจจัยหลักในการเลือกโทรศัพท์มือถืออีกด้วย หนึ่งในยี่ห้อที่อยู่ในดวงใจของคนเล่นมือถือได้แก่ยี่ห้อไอโฟน ซึ่ง 5 เหตุผลที่ควรซื้อโทรศัพท์ไอโฟนมีดังต่อไปนี้

1. กล้องถ่ายรูปสวย

สำหรับเหตุผลแรกที่หลายคนยอมรับก็คือไอโฟนมีกล้องทั้งหน้าและหลังที่สวยงาม เหมาะสมกับการถ่ายรูปทั้งตัวบุคคลและกล้องหน้าเองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่แล้วกล้องถ่ายรูปของไอโฟนจะมีโหมดต่างๆ มาให้คนถ่ายได้เลือกสรร ทั้งโหมดหน้าชัดหลังละลาย โหมดกลางคืน แต่ละโหมดก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ซื้อเน้นการถ่ายรูปแบบใดกันแน่

2. เสียงเพลงเพราะ

นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว โทรศัพท์ยี่ห้อนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านการลำโพงและเสียงอีกเช่นกัน หากใครที่เป็นคนชอบดูหนังหรือว่าฟังเพลงเป็นประจำ การเลือกใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้ก็น่าจะถูกใจคุณไม่น้อย โดยโทรศัพท์ไอโฟนจะมอบเสียงเซอร์ราวน์รอบทิศทางได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังช่วยเบรกบรรยากาศแห่งความตึงเครียดของโลกภายนอกที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดี

3. มีความทนทาน

โทรศัพท์ยี่ห้อนี้มีความทนทานอย่างที่หลายต่อหลายคนคิดไม่ถึง หากว่าคุณไม่ใช่คนขี้เบื่อและไม่อยากวิ่งตามเทคโนโลยี  ชอบเปลี่ยนมือถือทุกสองปี โทรศัพท์รุ่นนี้จัดได้ว่าเหมาะสมกับคุณอย่างยิ่ง โดยอย่างน้อยๆ ก็สามารถใช้งานได้ราวๆ 3 ปีเลยทีเดียว

4. เล่นแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย

อีกหนึ่งจุดเด่นของโทรศัพท์ยี่ห้อนี้คือการเล่นแอพพลิเคชั่นได้หลายแอพ บางแอพมีการพัฒนาขึ้นมาใช้เฉพาะในไอโฟนเท่านั้น ยิ่งกระแสปัจจุบันหลายคนคงเคยได้ยินชื่อแอพพลิเคชั่นคลับเฮ้าส์ ที่เปรียบเสมือนการโต้วาทีออนไลน์ คนฟังได้รับสาระความรู้ต่างๆ และเปิดโลกทัศน์มากขึ้น อย่างไรก็ดีแอพพลิเคชั่นนี้ยังอยู่ในไอโฟนเท่านั้น ทำให้หลายๆ คนที่ใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์เสียดายอย่างยิ่ง

5. แบตเตอรี่ทนทาน

อีกข้อดีของโทรศัพท์ไอโฟนคือแบตเตอรี่ทนทานอย่างยิ่ง เหมาะสมกับคนที่ไม่ชอบชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ หรือมีคิวต้องเดินทาง ไม่ชอบใช้พาวเวอร์แบงค์ ที่หนักกระเป๋า ดังนั้นสำหรับใครที่อยากให้การใช้แบตเตอรี่ของคุณมีความทนทาน ใช้ได้นานควรเลือกยี่ห้อนี้จะดีที่สุด

หากว่าคุณเป็นคนที่กำลังจะซื้อโทรศัพท์ ขอแนะนำว่าโทรศัพท์ไอโฟนคือคำตอบที่ลงตัวอย่างยิ่ง และสำหรับคนที่มีงบประมาณ แนะนำว่าอย่ารีรอที่จะเลือกซื้อ เพื่อเติมเต็มความสนุกในทุกๆ วันสำหรับตัวคุณนั่นเอง

ตู้ MDB

ตู้ MDB คือ ตู้แผงจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ เป็นอุปกรณ์แรกที่รับไฟฟ้าจากการไฟฟ้า เพื่อแปลงกระแสไฟแล้วจ่ายกำลังไฟฟ้าไปยังแผงย่อยตามส่วนต่าง ๆ ของตัวอาคารสถานที่ มักใช้สำหรับอาคารที่มีขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์นี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเรียกว่า ตู้ MDB หรือตู้ สวิทช์บอร์ด ในบางประเทศก็จะเรียกง่า Main Switchboard มีการนำมาใช้งานใน 4 วัตถุประสงค์หลัก ๆ ด้วยกัน การใช้งาน ตู้ MDB เพื่อการตอบสนองตามวัตถุประสงค์แต่ละอย่าง

อย่างที่กล่าวแล้วข้างต้นว่า ตู้ MDB เป็นแผงไฟแรกที่รับไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่ง ตู้ MDB มีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้

1. แจกจ่ายกำลังไฟฟ้า เข้าสู่ตัวอาคารโดยผ่านสวิทช์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า สวิตซ์เกียร์ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นไฟฟ้าแรงดันต่ำที่มีขนาดแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 400-416 VAC, 50Hz 3 เฟส 4 สาย ซึ่งเป็นความแตกต่างหลักอย่างหนึ่งระหว่างอาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรมในการใช้ไฟฟ้า 3 เฟสแทนการใช้ไฟฟ้า 1 เฟส เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือสวิทช์แยกวงจร เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตัด-ต่อไฟฟ้าเพื่อเข้าสู่ตัวอาคาร

2. ป้องกันระบบไฟฟ้า ในกรณีที่ระบบการแจกจ่ายกำลังไฟฟ้ามีปัญหา ไม่ปกติ ถ้าไม่มีระบบการป้องกันอาจจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่เสียหายได้ หรือถ้าเกิดความรุ่นแรงอาจทำให้ระเบิดได้ และอาจเกิดอันตรายกับผู้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้ได้ และถ้าไฟฟ้าลัดวงจรจะทำให้เกิดการผิดปกติของระบบไฟฟ้า ดังนี้ เกิดลัดวงจร (Short Circuit), กระแสเกิน (Overload), แรงดันเกิน (Over Voltage), แรงดันตก (Under Voltage), แรงดันหายบางส่วน (Phase loss), แรงดันสลับเฟส (Phase Sequence), ป้องกันไม่ให้มีกระแสรั่ว (Earth Leakage) และป้องกันฟ้าผ่า (Surge Protection)

3. แสดงสถานการทำงาน เพาว์เวอร์ มิเตอร์จะใช้ในการแสดงค่าพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้า เช่น แรงดัน, กระแส, ความถี่, กำลังงานไฟฟ้าที่ใช้จริง, กำลังงานไฟฟ้ารีแอคทีฟ และ Harmonic เป็นต้น เพื่อใช้สำหรับวัดคุณภาพการใช้พลังงานเช่นเดียวกับการวัด และบันทึกปริมาณพลังงานที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประหยัดพลังงาน ทั้งนี้เพาว์เวอร์มิเตอร์แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ Analog Power Meter และ Digital Power Meter

4. ระบบไฟฟ้าสำรอง มีหลายรูปแบบ หลายระดับ เริ่มตั้งแต่การสตาร์ทเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบ manual และการเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟเป็นแบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันวงจรที่จำเป็น ในขณะเดียวกันการควบคุมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การสั่งสตาร์ทเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ เมื่อกำลังไฟฟ้าพร้อมที่จะจ่าย ก็จะสั่งงานการจ่ายไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ เพื่อกลับมาใช้กำลังไฟฟ้าที่สำรองมาจาก generator แทนการใช้งานแบบ USP ทั้งนี้ก็จะกลับไปใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักเมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักกลับสู่สภาพปกติแล้วนั่นเอง

ประโยชน์ของการใช้งานประมวลผลบนระบบคลาวด์

ผู้ที่ใช้งานระบบประมวลผลบนคลาวด์คือ องค์กรทุกประเภท ทั้งขนาดเล็ก-ใหญ่ ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กรให้สะดวกและเป็นระบบ

aws เป็นอีกหนึ่งระบบคลาวด์ที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้ประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ หรือนำฐานข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ในการตลาด, การตรวจสอบความผิดปกติของข้อมูล เมื่อมีผู้ฉ้อโกง หรือสำรองข้อมูลก็สามารถทำได้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน aws ไทย อยู่เป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากหลายประเทศทั่วโลก เพราะมันเป็นระบบที่ชาญฉลาดและใช้งานง่ายนั่นเอง

ประโยชน์ของการประมวลผลด้วยระบบคลาวด์

  • เพิ่มความคล่องตัว

ระบบคลาวด์ aws จะช่วยให้คุณเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ หลากหลายแบบ จึงช่วยให้คุณสามารถพัฒนาตนเองจากการใช้งานนวัตกรรมเหล่านั้น เพราะในระบบ ไม่ว่าจะของต่างชาติหรือ aws thailand ก็สามารถใช้งานเทคโนโลยีล้ำ ๆ ได้เช่นกัน เช่น การประมวลผลข้อมูล, การจัดการฐานข้อมูล, การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการวิเคราะห์วิจัยข้อมูลเชิงลึกด้วยฟังก์ชันพิเศษอีกมากมาย

เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ใช้งาน และช่วยให้การจัดการข้อมูลต่าง ๆ เป็นไปได้โดยง่าย

  • ยืดหยุ่นได้

การประมวลในระบบคลาวด์จะช่วยให้คุณไม่ต้องเตรียมข้อมูลมามากหรือน้อยเกินความจำเป็น เพียงเตรียมมาให้เพียงพอเท่าที่ต้องการตามจริง แล้วระบบประมวลผลของคลาวด์จะช่วยขยายหรือลดทรัพยากรที่มีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจหรือค่าต่าง ๆ ตามที่คุณได้กำหนด, วางแผนเอาไว้

  • ใช้ได้ทั่วโลก

ไม่ว่าคุณจะใช้งาน aws thailand อยู่ที่ประเทศไทย แล้วต้องการให้คนที่อยู่ต่างประเทศเข้ามาร่วมจัดการข้อมูลด้วย หรือการที่ตัวคุณอยู่ต่างประเทศ แต่ยังต้องจัดการข้อมูลงานอยู่ ก็สามารถเข้าถึงระบบประมวลผลได้ เพียงแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต

ทำไมควรเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำจาก PICO

เครื่องวัดคุณภาพน้ำเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมของคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพ คุณภาพ ความแม่นยำ และ มีมาตรฐานที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมโรงงาน หรืองานทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการตรวจคุณภาพของน้ำ แน่นอนว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีตัวช่วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจคุณภาพของน้ำอย่าง เครื่องวัดคุณภาพน้ำ นั่นเอง โดยเจ้าเครื่องวัดคุณภาพน้ำก็คือ เครื่องมือชนิดหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อการตรวจวัดคุณภาพของน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นกรด – ด่าง ความบริสุทธิ์ของน้ำ วัดค่าคลอรีน ออกซิเจนในน้ำ และ อื่น ๆ อีกมากมาย 

ซึ่งการเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำจากบริษัทที่มีประสบการณ์ในการขาย และ บริการด้านธุรกิจอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ก็จะช่วยให้คุณได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งการบริการที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้เป็นระบบ และ ง่ายมากยิ่งขึ้น อย่าง PICO หรือ บริษัท เพทโทร-อินสตรูเมนท์ จำกัด ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านการขาย และ บริการในธุรกิจอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2524 ทำให้คุณมั่นใจในการบริการ และ คุณภาพของสินค้าได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง PICO ยังมีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การขาย การออกแบบโซลูชั่น และ การบริการหลังการขายที่จะช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมของคุณดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และ คงคุณภาพในการทำงานได้นั่นเอง 

ทำไมควรเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำจาก PICO

  1. PICO มีประสบการณ์ด้านการขาย และ การบริการธุรกิจด้านอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน 
  2. PICO มีสินค้าให้คุณเลือกมากมาย ที่ทั้งมีคุณภาพ และ ราคาถูก ที่สำคัญคือ ครอบคลุมทุกธุรกิจด้านอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน 
  3. PICO มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และ การดูแลตลอดการซื้อสินค้า และ หลังการขาย ทำใหคุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมของคุณ
  4. PICO มีบริการที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกบธุรกิจด้านอุตสาหกรรมถึง 7 ประเภทอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจเครื่องมือวิเคราะห์ในกระบวนการผลิต, กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้, กลุ่มธุรกิจเครื่องมือด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และคุณภาพสิ่งแวดล้อม, กลุ่มธุรกิจเครื่องมือตรวจวัดและวิเคราะห์ด้านวิทยาศาสตร์, กลุ่มธุรกิจเครื่องมือวัดในโรงงานอุตสาหกรรม, กลุ่มธุรกิจระบบควบคุมอัตโนมัติ และสุดท้ายกลุ่มธุรกิจบริการจัดซื้อจัดหาอะไหล่ และวัสดุสิ้นเปลือง เพื่อตอบสนองของลูกค้าจากหลาย ๆ ประเภทธุรกิจ  
  5. PICO มีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การซื้อขาย จน บริการหลังการขาย ที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ง่าย และ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจน้องใหม่ หรือ เป็นผู้ที่ทำธุรกิจมานานแล้วก็สามารถใช้บริการจาก PICO อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน 
  6. PICO มีบริการข้อมูลทางเว็บไซต์  https://www.pico.co.th/ ที่มีข้อมูลของสินค้า และ การบริการจาก PICO รวมถึงคุณยังสามารถซื้อสินค้าของเราได้ผ่านทางเว็บไซต์ได้อย่างง่าย และ สะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

และทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่คุณควรเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำจาก PICO หากคุณสนใจอ่านรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม หรือ สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ก็สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้า และ เลือกซื้อ ได้ที่ https://www.pico.co.th/  

สิ่งที่ต้องระวัง เมื่อใช้โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดีย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญมาก ที่หลายคนแทบจะขาดไม่ได้ หากวันไหนไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียพวกนี้ และที่ฮิตกันมากที่สุด ก็คงจะเป็น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูบ เป็นต้น ที่ทั่วโลกนิยมเล่นกัน เพราะมันสามารถเป็นช่องทางในการหาข่าวสาร อัพเดตความรู้ สามารถพูดคุยกับเพื่อนได้ และแม่แต่ใช้หาเงิน ก็ได้เนกัน อยู่ที่ใครจะหาทางได้หรือไม่เท่านั้น นับว่าโซเชียลมีเดียพวกนี้ มีประโยชน์อย่างมาก กับมนุษย์โลก แต่ทุกสิ่งทุกกอย่าง เมื่อมันมีประโยชน์ได้ มันก็สามารถมีโทษได้เช่นกัน

เราลองมาดูกันหย่อยว่า โซเชียลมีเดีย มีอะไรบ้างที่เป็นอันตราย และเราต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อเข้ามาใช้งานกับโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ไว้ ไม่งั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของเราได้

-หลอกให้โอนเงิน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยมากที่สุด ขากที่เราเห็นตามข่าวในโลกโซเชียลทุกวันนี้ ว่ามีการหลอกให้โอนเงินมากมาย จากพวกมิจฉาชีพต่างๆ โดยมักจะอ้างว่า มาจากบริษัทนู้นนี่ แล้วก็ให้เราจ่ายค่าอะไรต่างๆ ซึ่งคนไม่รู้ และไม่เช็ครายละเอียดให้ดี ก็มักจะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย หรือแม้แต่การสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์ ก็เช่นเดียวกัน บางครั้งก็หลอกให้เราโอนเงินเข้าไปให้ก่อน แล้วก็ไม่ได้สินค้ากลับมา เพียงแค่เอาสินค้ามาโฆษณาหลอกอย่างเดียวเท่านั้น

-ล้วงข้อมูลส่วนตัว สิ่งนี้ก็อันตรายเช่นเดียวกัน มิจฉาชีพมักจะมี วิธีการใหม่ๆ ในการหลอกให้คนหลงเชื่อและบางครั้งเราก็คาดไม่ถึงด้วย ว่ามันจะสามารถเอาข้อมูลของเราไปได้ อย่างเช่นหลอกให้เราถ่ายรูปพวกบัตรต่างๆ อย่างบัตรประชาชน บัตรเครดิต อะไรเป็นต้น แล้วก็เอาข้อมูลในบัตรของเราไปทำให้เกิดความเสียหาย อย่างที่เห็นก็คือ มีใบแจ้งหนี้ตามมาถึงบ้าน โดยที่เราไม่รู้ตัว และไม่เคยไปทำอะไรสักอย่างเดียว แบบนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องระวังให้มาก ไม่ควรจะโพสต์ หรือว่าถ่ายรูปอะไรก็ตาม ที่มันเป็นของสำคัญของเราลงโซเชียลมีเดีย เด็ดขาด เพราะอันตรายที่คาดไม่ถึง มาให้เห็นได้เสมอ

-อย่าให้รหัสผ่านกับใครทั้งนั้น ทุกรหัสผ่านของเราในโซเชียลมีเดีย เช่นเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ เราก็ไม่ควรจะให้รหัสผ่านเข้าระบบกับใครทั้งนั้น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าเขาจะเอาไปทำอะไรบ้าง บางทีอาจจะไปโพสต์โจมตี หรือไปด่าว่าใครเสียหายมา โดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ จะมารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เราโดนจับซะแล้ว แบบนี้เป็นต้น ถือว่าอันตรายอย่างมาก

-ภัยจากร้านคอมพิวเตอร์สาธารณะ เมื่อเราไปใช้งานคอมพิวเตอร์ตามร้านต่างๆ เป็นสิ่งที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะบางครั้ง เราอาจจะเผลอลืมออกจะระบบ ทำให้คนที่มาเข้าใช้งานต่อ สามารถเข้าดูข้อมูลส่วนตัว เรื่องส่วนตัวของเราได้ อาจจะทำให้เราเกิดความเสียหายทีหลัง เมื่อเข้าไปใช้งานที่ร้านคอมพิวเตอร์สาธารณะ อย่าลืมออกจากระบบเด็ดขาด

ทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อเราใช้งานโซเชียลมีเดีย และเป็นสิง่ที่เราต้องระวังมากเป็นพิเศษ อย่าให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นกับเรา เพราะเรารู้ว่ามันจะเสียหายมากเท่าไหร่ บางครั้งก็อาจจะทำให้เรา ถึงกับหมดตัว หรือติดคุกเลยก็ได้

SEO มันมีประโยชน์อย่างไร

SEO

เป็นสิ่งที่เหล่าผู้พัฒนาเว็บไซต์ รู้จักกันเป็นอย่างดี และมันถือว่ามีผลอย่างมาก สำหรับเว็บไซต์ของเรา คนที่กำลังอยากจะทำเว็บไซต์ เรื่องของ SEO ถือว่าสำคัญมาก ที่เราจะต้อง มันมีผลกับเว็บไซต์ของเราอย่างมาก ที่จำช่วยทำให้เรา มีรายได้จากเว็บไซต์ คนที่เป็นมือใหม่ ต้องมาดูความหมายกันก่อน ว่า SEO นั้คืออะไร และจำเป็นมากแค่ไหนในเว็บไซต์ของเรา

SEO คือบทความที่ถูกเขียนขึ้น เพื่อใช้งานกับสื่อทางอินเตอร์เน็ต เพื่อที่ให้เกิดความสะดวกที่สุด ในการถูกค้นหาด้วยโปรแกรมการค้นหา ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการค้นหา ด้วยการประมวลผล ความเกี่ยวข้องจากคำค้นหา หรือที่เรียกว่าคีย์เวิร์ด ซึ่งในบทความประเภทนี้ จะมีการใส่คีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ สินค้าหรือบริการลงไปอย่างหวังผล

และเมื่อเกิดการค้นหาด้วยคำนั้นๆ ด้วย ข้อมูลที่ใส่คีย์เวิร์ดเอาไว้ ก็จะปรากฏให้เห็นก่อน เพราะเนื่องจากถูกโปรแกรมค้นหา จะช่วยให้สามารถค้นพบได้ง่ายกว่า และถูกประมวลผลว่าข้อมูลนี้เกี่ยวข้อง หรือสรุปง่ายๆ ก็คือ บทความ SEO เป็นการเขียนบทความขึ้น เพื่อเจตนาให้ถูกค้นพบได้ง่าย และต้องการให้ข้อมูล จากเว็บไซต์นั้นๆ ให้ได้อยู่ในอันดับต้นๆ และเพื่อเพิ่มโอกาส ในการสร้างรายได้ ของผู้ประกอบการ ที่ทำการตลาด ผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งการใช้บทความแนวนี้ ภายในเว็บไซต์ที่ดีที่สุด คือการทำอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และยิ่งเราได้เพิ่มบทความที่มีคีย์เวิร์ด ซึ่งเห็นว่าเกี่ยวข้องกันมากเท่าไร มันก็เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ของเรา และนำไปประมวลผล เพื่อที่จะแสดงผล ในการค้นหามากขึ้นเท่านั้น ถ้ายิ่งบ่อยมากเท่าไร ก็จะยิ่งถูกมองว่าเกี่ยวข้องมากเท่านั้น มันก็จะเลื่อนอันดับของเว็บไซต์ ของเราขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการนำเสนอสินค้าของเราก็จะเพิ่มตามมาด้วย

ส่วนการใช้บทความ ที่เกี่ยวกับการเชื่อมโยงจากภายนอก ก็คือการนำบทความ SEO ของเรา ไปเผยแพร่ตามเว็บไซต์อื่นๆ และใส่ลิงค์เชื่อมโยงกลับเข้ามา ซึ่งการนำลิงค์ของเว็บไซต์ ไปแปะก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่มันก็ยังไม่ดีเท่ายกไปทั้งบทความ เพราะเนื่องจากโปรแกรมการค้นหา จะมองว่าเว็บไซต์ของเรา เป็นต้น ทางที่มาของเนื้อหา จะส่งผลให้เว็บไซต์ของเรา ได้รับความสนใจ จากโปรแกรมค้นหามากยิ่งขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม การจะใช้บทความ SEO ในเว็บไซต์ ก็จะต้องทำให้เกิดเงื่อนไข 2 ประการก่อนคือ การปรับแต่งโครงสร้างเนื้อหา ภายในเว็บไซต์ที่สอดคล้องกัน โดยมีการวางคีย์เวิร์ดสำคัญเอาไว้ และอย่างที่สองก็คือ การเลือกใช้คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ด ในลักษณะที่เป็นกลุ่มคำ ไม่เน้นย้ำใส่คำโดดๆ คำเดียว ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะถูกมองว่า เป็นเนื้อหาที่ไม่มีความหมาย และเป็นเพียงที่เป็นการย้ำคีย์เวิร์ดเท่านั้น

ดังนั้นการเขียนบทความ SEO จึงต้องใช้ความตั้งใจ ในการวางคีย์เวิร์ด ให้สอดคล้องกันอย่างแนบเนียน และดูเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เช่นนั้นแทนที่จะได้ผลดี อาจจะเกิดผลเสียแทนก็เป็นได้ หรือถ้าหากว่ายังไม่แน่ใจ หรือว่ายังไม่เกิดความชำนาญ ก็ให้ลองหาผู้ที่เชียวชาญ ที่รับเขียนบทความ SEO มาจัดการให้ ก็อาจจะได้ผลดีกว่า และไม่เสียเวลาในการสร้างเนื้อหา ที่ต้องใส่คีย์เวิร์ดอย่างลงตัวให้วุ่นวาย

Secure Zone บนโลกไอทีอยากอยู่โซนนี้ต้องทำอย่างไร

ไอที

หลายคนคงเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยไอทีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว จากการโจมตีของมัลแวร์สายพันธุ์แปลกใหม่ ไปจนถึงการที่ข้อมูลส่วนตัวของเรา ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้ามากขึ้น ผ่านการตลาดออนไลน์ แบบเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นรายบุคคล

โดยที่ผู้ก่อตั้งเหล่านี้ หรือที่เรียกกันว่าแฮกเกอร์ ที่ได้พัฒนาทั้งด้านฝีมือ และเครื่องมือให้มีความซับซ้อน และทำการดักจับได้ยากขึ้น สำหรับพวกเราผู้ใช้งาน ย่อมจะเป็นการดีกว่าแน่นอน ถ้าได้เตรียมพร้อมรับมือ กับสิ่งที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ วันนี้เราก็มีวิธีง่ายๆ ที่ควรทำเพื่อนำตัวเองไปอยู่ในโซนที่ปลอดภัยด้านไอที

อย่างแรกเลยคืออย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป การใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ เราย่อมไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จะมาหวังดีแต่ประสงค์ร้ายหรือเปล่า ข้อมูลของเราอาจถูกแชร์ไปถึงไหนต่อไหนก็ไม่รู้ การกำหนดกรอบการเปิดเผย ข้อมูลส่วนตัวล่วงหน้าถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น บางทีการแชร์ภาพหรือการโพสต์ข้อความอะไรก็ตาม ต้องเตือนตัวเองเสมอ ว่าผู้อื่นได้ล่วงรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราเกินสมควรไปหรือเปล่า

ในกรณีเดียวกันเมื่อแอฟตัวใหม่ที่เรายังไม่ค่อยคุ้น บางตัวขอสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเรา เกินกว่ากรอบที่กำหนดไว้ เราก็ไม่ควรให้สิทธิ์ เช่น ขอบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตไว้ หรือเข้าถึงข้อมูลชื่อ เบอร์โทร รวมไปถึงการแชทออนไลน์ ที่ควรกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน และไม่ควรแชร์ความเห็นแบบแรงๆ ประเภทที่อาจทำร้ายความรู้สึกของใครบางคน ซึ่งก็จะเป็นการสร้างศัตรูโดยที่ไม่จำเป็น

อย่าทิ้งประวัติการใช้งานออนไลน์ไว้ รู้หรือไม่ว่าการกรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร หรือพวกกดรับ Notifications จากเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย นั่นหมายถึงการตกเป็นเหยื่อ ของอัลกอรึทึมที่ชาญฉลาดของเว็บไซต์ของ Brands ต่างๆ ซึ่งพวกนี้จะมีการประมวลผล รูปแบบในการแสดงเนื้อหาให้พวกเราเห็นแตกต่างกันไป ตามความสนใจของแต่ละบุคคล ผู้ให้บริการเหล่านี้จะรู้จักเราได้ จากการติดตามการใช้งานผ่าน Browser ที่เราใช้งานนั่นเอง

โดยที่ผ่าน Cookie ซึ่งก็คือ ข้อมูลขนาดเล็กซึ่งถูกเก็บไว้ในเครื่องของเรา เช่น ข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของเรา หรืออาจจะมีโปรแกรมจำพวก Spywaer แอบเข้ามาเก็บข้อมูลของเราไปด้วย ถ้าเป็นไปได้เราขอแนะนำให้ล้าง Cookie ทุกครั้งหลังใช้งานหรือสั่ง Disable Cookie โดยถาวรไปเลย

การจัดการรหัสผ่าน ในการตั้งค่ารหัสผ่านให้ซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม อาจจะไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกวันนี้หลายคนที่ตกเป็นเหยื่อแฮกเกอร์ ก็มาจากการใช้รหัสผ่านชุดเดียวกันในหลายๆ บัญชี ซ้ำร้ายชีวิตทั้งชีวิต อาจจะตกอยู่ในมือของแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่ หากคนๆ นั้นได้ใช้รหัสผ่านชุดเดียวกันหมดในทุกบัญชี นักวิจัยกำลังสาละวน อยู่กับการออกแบบระบบการแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบ

เมื่อหนึ่งในรหัสผ่านที่ใช้ซ้ำเหล่านี้มีการรั่วไหล แต่ก็จะเป็นการปลอดภัยกว่า หากได้เลือกใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับบัญชีที่มีความสำคัญทางด้านการเงิน และทุกวันนี้ผู้ใช้งานมีทางเลือกใช้ซอฟต์แวร์ มาจัดการกับรหัสผ่าน แม้จะไม่ปลอดภัยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังดีกว่าการใช้รหัสผ่านแบบเดิมๆ ที่ไม่เคยได้เปลี่ยนเลย